CDS ล้างพิษ Chlorine Dioxide Solutions คลอรีนไดออกไซด์โซลูชั่น

~~750.0000~~ 400.0000 -47%

ขายแล้ว 28,561 ชิ้น

โอนเงิน จัดส่งฟรี

CDS คือ ตัวย่อของสารละลายคลอรีนไดออกไซด์ เป็นเคมีสังเคราะห์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีคุณสมบัติ 4 อย่าง ที่ไม่มียาใดในโลกนี้ทำได้

CDS ของเรา ออกฤทธิ์ 4 ประการ

1. ทำลายเชื้อทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นไวรัส HIV ตับอักเสบ แบคทีเรีย โปรตัวซัว และสารพิษจากเชื้อ โดยไม่ทำลายจุลินทรีย์ชนิดดี (Probiotic) ในลำไส้ของเรา

2. ให้ออกซิเจนกับร่างกายสูงมาก หลังจากทาน CDS ไป 4 ชั่วโมง คนที่ทานจะมีค่าออกซิเจนสูงพรวดพราดไปที่ 97-99 % โดย CDS หลังจากกำจัดสารพิษและเชื้อโรค จะปล่อยออกซิเจนจำนวนมากให้กับเซลล์ของร่างกาย

3. หลังจากทาน CDS ไป 1 ชั่วโมง เซลล์ของเม็ดเลือดแดงจะกาะจายตัวออกจากกัน ทำให้เลือดใสสะอาด หลังเม็ดเลือดแดงกระจายตัว เลือดไม่เป็นกรด ไม่ข้นหนืด เลือดจะพาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้เต็มที่ชนิดที่ไม่เคยมีอะไรทำได้มาก่อน หัวใจจะใช้แรงบีบตัวน้อยลง ความดันจึงลดลงมาสู่ภาวะปกติ

4. ดีท๊อกซ์และทำลายสารพิษ โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง พิษจากเชื้อโรค และอื่นๆ อีกมากมายที่สะสมในเลือดและตามเซลล์ โดยที่ร่างกายไม่เคยกำจัดได้

เลือดคือพื้นฐานของสุขภาพที่ดี โรคที่มีจะโดนกระทุ้งออกและค่อยๆ หายไป ส่วนออกซิเจน จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์กลับมาแข็งแรงและทำงานได้ดีอีกครั้ง เกิดการซ่อมแซมเซลล์และให้พลังงานมากกว่าที่ก่อนกิน CDS

สั่งซื้อ CDS

โรคที่รักษาได้ด้วย CDS หรือ คลอรีนไดออกไซด์

1. หอบหืด(Asthma)

2. ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)

3. ภูมิแพ้(Allergy)

4. ความดันโลหิตสูง (Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) – Lou Gehrig’s Disease)

5. เส้นเลือดขอด(Varicose Veins)

6. อัลไซเมอร์(Alzheimer’s Disease)

7. โรควิตกกังวล(Anxiety)

8. จมูกอักเสบจากภูมิแพ้(Allergic Rhinitis)

9. โรคที่เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราทุกประเภท

10. โรคกรดไหลย้อน(Reflux)

11. มะเร็งทรวงอก(Breast Cancer)

12. มะเร็งกระดูก(Bone Cancer)

13. โรคเอดส์(AIDS or HIV)

14. โรคไบโพลาร์(Bipolar Disorder)

15. โรคสมาธิสั้น

16. โรคหลอดเลือดหัวใจ

17. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง(Amyotrophic Lateral Sclerosis)

18. การบาดเจ็บและการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น

19. โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง(Autoimmune Disease)

20. หลอดลมอักเสบ(Bronchitis)

21. โรคไส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis)

22. มาเลเรีย(Malaria)

23. อหิวาห์

24. ไข้เลือดออก(Dengue Fever)

25. โรคชิคุนกุนยา(Chikungunya)

26. ฝีคัณฑสูตร(Anal Fistula)

27. น้ำกัดเท้า(Athlete’s Foot)

28. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง(Atopic Dermatitis)

29. ฝี(Abscess)

30. สิว(Acne)

31. โรคปากเปื่อยหรือแผลร้อนใน(Aphthous Stomatitis)

32. ออทิสติก(Autism)

33. การติดเชื้อจากแบคทีเรียแกรมลบ(Brucellosis)

34. แมลงหรือสัตว์มีพิษกัดต่อย(Bites)

35. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ(Bladder Cancer)

36. โรควิตกกังวลทั่วไป(Generalized Anxiaty Disorder)

37. โรคผมร่วงเป็นหย่อมหรือหัวล้าน(Alopecia or baldness)

38. ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย(Bacteria Vaginosis)

39. ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว(Atherosclerosis)จากไขมันสะสม

40. ภาวะถุงข้อต่อบวมอักเสบ(Bursitis)

41. โรคชากาส(Chikungunya) ปรสิตในมวนเพชรฆาต

42. โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา(Candidiasis (vaginal))

43. โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง(Chronic Obstructive Pulmonary Disease – COPD)เกิดจากถุงลมโป่งพองและหลอดลมอักเสบเรื้อรัง

44. มะเร็งลำไส้(Colorectal Cancer (Colon Cancer))

45. มะเร็งลิ้น(Tongue Cancer)

46. ไข้หวัดธรรมดา(Common Cold)

47. ไข้หวัดใหญ่(Influenza)

48. ภาวะหัวใจล้มเหลว(Congestive Heart Failure)

49. โรคตาแดง(Conjunctivitis)

50. โรคลำไส้อักเสบ(Crohn’s Disease)

51. แผลบนผิวหนัง(Cutaneous Leishmaniasis)

52. โรคซิสติกไฟโบรซิส(Cystic Fibrosis)เมือกในร่างกายเหนียวข้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรม

53. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ(Urinary Infection)

54. ซีส(Cysts)

55. รังแค(Dandruff)

56. โรคสมองเสื่อม(Dementia)

57. โรคซึมเศร้า(Depression)

58. โรคเบาหวาน(Diabetes)

59. โรคท้องเสีย(Diarrhea)

60. โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ(Diverticulitis)

61. อีโบลา(Ebola)

62. โรคติดเชื้อไวรัส CMV(Cytomegalovirus)

63. การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ(Erectile Dysfunction)

64. โรคติดเชื้อ Escherichia coli (E. coli)

65. มะเร็งหลอดอาหาร (Esophageal Cancer)

66. โรคไฟโบรไมอัลเจีย (Fibromyalgia) หรือโรคเรื้อรังที่ทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างหนัก

67. กระดูกหัก(Fracture)

68. โรคเชื้อรา(Fungi (Mycosis))

69. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ(Gastritis)

70. โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ(Gastroenteritis)

71. เหงือกอักเสบ(Gingivitis)

72. โรคหนองใน(Gonorrhea)

73. โรคเก๊าต์(Gout)

74. อาการปวดหัว(Headache)

75. การสะสมของโลหะหนักในร่างกาย

76. โรคตับแข็ง(Hepatic Cirrhosis)

77. โรคไวรัสตับอักเสบ(Hepatitis)

78. โรคไส้เลื่อน(Hernia)

79. โรคเริม(Herpes)

80. คอเรสเตอรอลสูง(High Cholesterol)

81. โรคไวรัส HPV(Human Papillomavirus (HPV))

82. โรคไทรอยด์เป็นพิษ

83. โรคติดเชื้อทุกชนิด(Infections)

84. มะเร็งไต(Kidney Cancer)

85. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว(Leukemia)

86. มะเร็งตับ(Liver Cancer)

87. มะเร็งปอด(Lung Cancer)

88. โรคแพ้ภูมิตัวเอง(Lupus or SLE)

89. โรคติดเชื้อแบคทีเรียจากเห็บ(Lyme Disease)

90. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง(Lymphoma)

91. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ(Meningitis)

92. โรคไมเกรน(Migraine)

93. โรคไวรัสโมโนนิวคลีโอซิส(Mononucleosis)

94. เชื้อแบคทีเรียดื้อยา(MRSA or Staphylococcus)

95. โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง(Multiple Sclerosis)

96. ภาวะไตอักเสบรุนแรง(Nephritis)

97. โรคข้อเสื่อม(Osteoarthritis (Arthrosis))

98. โรคกระดูกอักเสบติดเชื้อ(Osteomyelitis)

99. หูชั้นกลางอักเสบ หูน้ำหนวกเรื้องรัง(Otitis)

100. มะเร็งรังไข่(Ovarian Cancer)

101. มะเร็งตับอ่อน(Pancreatic Cancer)

102. โรคแผลในกระเพาะอาหารจากเชื้อ Helicobacter (Peptic Ulcer (Helicobacter))

103. โรคเหงือกอักเสบ(Periodontitis)

104. โรคปอดอักเสบ(Pneumonia)

105. มะเร็งต่อมลูกหมาก(Prostate Cancer)

106.โรคต่อมลูกหมากอักเสบ(Prostatitis)

107. โรคสะเก็ดเงิน(Psoriasis)

108. โรคนิ่วในไต(Renal Calculus)

109. โรคไตวาย(Renal Failure)

110. โรค Renal Ischemia-Reperfusion(ของเสียจากไตไหลย้อนเข้ากระแสเลือด)

111. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์(Rheumatoid Arthritis)

112. โรคกลุ่มเซลอักเสบ(Sarcoidosis)

113. โรคหิด(Scabies)

114. โรคจิตเภท(Schizophrenia)

115. อาการปวดร้าวจากสะโพกลงขา(Sciatica)

116. โรคโซเกร็น(Sjögren’s Syndrome) ภูมิต่อต้านเนื้อเยื่อตัวเอง

117. ผื่นผิวหนัง(Skin Rash)

118. โรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อ Staphylococcus

119. มะเร็งกระเพาะอาหาร(Stomach Cancer)

120. มะเร็งต่อไทรอยด์(Thyroid Cancer)

121. ต่อมทอนซิลอักเสบ(Tonsillitis)

122. วัณโรค(Tuberculosis)

123. เนื้องอก(Tumor)

124. ไข้ไทฟอยด์(Typhoid Fever)

125. โรคลำไส้อักเสบ(Ulcerative Colitis)

126. มะเร็งมดลูก(Uterine Cancer)

127. โรคม่านตาอักเสบ(Uveitis)

128. แผลเรื้อรังจากเส้นเลือดขอด(Venous Ulcers)

129. ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ(Venous Thrombos

130. โรคปากอักเสบพุพองจากเชื้อไวรัส(Vesicular Stomatitis)

131. โรคด่างขาวจากความผิดปกติของเซลผิวหนัง(Vitiligo)

132. หูด(Warts)

วิธีดื่ม CDS

สัปดาห์แรกใช้น้ำดื่มแช่เย็น ขวดละ 500 ml 2 ขวดต่อวัน ผสม CDS ขวดละ 5 ml เขย่าให้เข้ากัน
สัปดาห์ที่ 2 ขึ้นไป เพิ่ม CDS เป็น 10 ml ผสม น้ำเย็น 500 ml ทำ 2 ขวดต่อวันเช่นกัน โดยดื่มเช้า 1 ขวด บ่าย 1 ขวด

💎 ให้แบ่งดื่มครั้งละ 100 ml ทุกๆ 1 ชั่วโมง ไม่ใช้ดื่มทีเดียว 1 ขวด ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้ออกซิเจนตลอดเวลา

💎 ควรดื่มห่างจากมื้ออาหาร

ก่อนอาหาร ควรทิ้งห่างจากที่ดื่มครั้งสุดท้าย ครึ่ง-1 ชั่วโมง

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทิ้งระยะไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่อยดื่มต่อ ดื่มแบบเดิม คือดื่มครั้งละ 100 ml ทุกชั่วโมง เพราะCDS จะทำงานได้ดีคือท้องว่าง ถ้าติดมื้ออาหารประสิทธิภาพจะลดลง

✅ ในระหว่างที่ดื่ม cds นี้ควรดื่มน้ำเปล่าตามเยอะๆ

❌ ข้อห้ามคือ ห้ามดื่ม เหล้า เบียร์ ไวน์

✅ ภาชนะที่ใส่ได้ คือพลาสติค และแก้ว ❌ห้ามใช้โลหะ

✅ CDSควรแช่เย็น ถ้าเราไปข้างนอก ควรแช่ในกระติกน้ำแข็ง และห้ามให้โดนแสง มิฉะนั้นประสิทธิภาพจะลดลงค่ะ

ถ้าเดินทางไม่ไกลมากและไม่สะดวกใส่กระติกน้ำแข็ง ก็ควรใส่ถุงหรือห่อไม่ให้โดนแสง

หรือกรณีเดินทางไกล ไม่สะดวกพกกระติกน้ำแข็ง อาจจะแบ่ง CDS ใส่ขวดขนาดเล็ก เอาไปผสมน้ำ 100 ml ดื่มเป็นครั้งๆไป (ผสมเฉพาะตอนดื่ม ) เพื่อป้องกันไม่ประสิทธิภาพลดลงไปมาก

(*)แต่ดีที่สุดคือแช่เย็น

‼️ข้อควรระวังและผลข้างเคียงในการดื่ม CDS ‼️

🟪 1) CDS มีคุณสมบัติ ในการต้านการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามิน C (Ascorbicacid) ผลไม้รสเปรี้ยว ตระกูลเบอรี่ มะนาว ซา กาแฟ ชา เขียว นม เเละสมุนไพรต่างๆจึงควร ทานห่าง 2 ชั่วโมงขึ้นไป

🟥 2) CDS ไม่เหมือนยาทั่วไป ที่กินแล้วจะไม่เกิดอะไร แต่ CDS เป็นสารสังเคราะห์ เวลาเข้าสู่ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยากับสารพิษและเชื้อโรคทันที จะรู้สึกร้อนวูบวาบตามจุดต่างๆ ที่มีสารพิษ ตัวรุมๆ คล้ายจะเป็นไข้ ฉี่บ่อย อึคล้ำและเหม็นมาก หลายท่านที่ดื่ม CDS แล้วง่วงนอน มึนๆ ให้นอนพักเพราะร่างกายต้องการซ่อมแชมตัวเอง ตื่นมาแล้วจะสดชื่น

🟦 3) บางคนดื่ม CDS แล้วมีอาการอึเหลว คล้ายท้องเสียแต่ไม่เพลีย เป็นเรื่องปกติในการขับสารพิษ

🟧 4) บางคนจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปากศรีษะ ท้ายทอย CDSเข้าไปทำการรื้อร่องรอยของโรคที่เคยเป็น เพื่อทำการซ่อมแซมให้กลับมาแข็งแรงเหมือนตอนหนุ่มสาว ท่านชายเองสมรรถภาพทางเพศจะกลับมาผงาด ท่านหญิงอาจมีเลือดเสียขับออกมา

🟨 5) ท่านที่เป็นมะเร็ง โรคไต จะมีการดื่มและควรดีท็อกลำไส้ไปด้วย ต่างจากโรคทั่วไป จากการคายพิษ กระทุ้งพิษ คนป่วยอาจมีการอาเจียน จนกว่าพิษในร่างกายจะน้อยลงและขับออกมาทางปกติได้

🟪 6) อาการข้างเคียงหรือการคายพิษจะมีในระยะแรก ไม่นาน ขอให้อดทนแล้วจะผ่านไปได้ด้วยดี และหายจากโรคครับ

เรามาดูประโยชน์ CDS

☑️ พ่น CDS เพียวๆ ใส่ขวดเปรย์

ที่ผิวหน้าเพื่อรักษา สิว ฝ้า กระ จุดต่างดํา เเละจะทําให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม ดูกระจ่างใส ฉีดพ่นบ่อยได้ตามที่ต้องการ ถ้าผิวเเห้งก็ใช้เจลหวานหางจรเข้ทาร่วมด้วยเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า

☑️ ผสม CDS ไว้หยอดตา

ต้อลม ต้อกระจก บำรุงสายตา ตาพร่ามัว สายตาสั้น สายตายาว

ใช้ CDS 1 ml / 10 มล. นํ้า (นํ้าเกลือ)ใช้เเค่ 2 วันเเล้วทิ้ง หยอดตาได้ทุก 2 - 4 ชั่วโมง ช่วงแรกจะเเสบตาเเละเเดง เเละจะมีขี้ตาในตอนเช้า เเสดงว่าตามีปัญหา CDS จะขับสารพิษออกมา เเต่ไม่นานก็ดีขึ้นตามลําดับ

☑️ CDS เพียวๆฉีดพ่นทุกๆ 1 ชั่วโมง สำหรับแผลติดเชื้อ สะเก็ดเงิน , แผลเบาหวาน , แผลมะเร็ง,ฝีหนอง , หรืออาการคัน ผดผื่นต่างๆ , ทั้งในที่ลับที่แจ้ง ได้เป็นอย่างดี

☑️ พ่น CDS เพียวๆ ที่หนังศีรษะทุก 1 ชั่วโมง ตรงโคนเส้นให้ชุ่ม สำหรับคนผมหงอก ผมบาง ผมร่วง / อาการปวดหัว มึนหัว เวียนหัว ได้เป็นอย่างดี

☑️ งูและสัตว์มีพิษกัดแปะด้วยสำลี CDS เพียวๆ ที่แผลเลย และกิน Protocol F20 เร่งด่วน คือ CDS 20 / น้ำ 750 ml ดื่มทุกๆ 15 นาทีจนหมด 2 - 4 ขวด เพื่อลดพิษในระหว่างรอไปหาหมอ

☑️รักษาสัตว์ สุนัข-เเมว ผสมแล้วป้อนด้วยไซริงค์ให้สัตว์กิน 3 ml / 100 มล. ป้อนวันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร และพ่น CDS เพียวๆ ที่ขนเเละผิวหนังเพื่อฆ่าเชื้อภายนอก รักษาเเผลเเละให้ขนงอกขึ้นมาใหม่

☑️ หยด CDS เพียวๆ ที่แปรงแล้วแฟรงฟันตามปกติ ดับกลิ่นปากและฟันสะอาดได้เป็นอย่างดี

☑️ เหงือกบวม ปวดฟัน บ้วนปากผสม CDS 5 - 10 ml/น้ำ 100 มล. อมไว้ 2 - 3 นาทีบ้วนทิ้ง จะทําให้เหงือกเเละฟันมีสุขภาพที่เเข็งเเรง

☑️ ใช้สเปรย์ CDS เพียวๆ ที่ผิวหนังที่โดนความร้อน หรือนํ้าร้อนลวก เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ผิว ทำให้ แผลไม่ติดเชื้อ หายไว

☑️ ผสมกินเมื่อเป็นไข้ สำหรับอาการที่หนัก ฉุกเฉิน และเกิดผลไว เช่น อาการสัตว์พิษกัด อาหารเป็นพิษ ปวดหัวรุนแรง มะเร็งกำเริบ ท้องเสีย หอบหืดหายใจไม่ออก หรืออะไรก็ตามที่พาให้เสียชีวิตในเสี้ยววินาที จะใช้โดสนี้ได้

ใช้ Protocol F20 (CDS 20 ml/น้ำ 750 มล.) แบ่ง 8 ส่วนกินทุก 15 นาที วันละ 2 ขวด เช้า - บ่าย

Protocol F20 เข้มข้นและดื่มบ่อย มีประสิทธิภาพสูงเพราะเกิดการสะสมของ CDS ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นทุก 15 นาที และมีการคายพิษแรงด้วยเช่นกัน จึงควรหยุดโดสนี้ถ้าร่างกายพ้นภาวะวิกฤติแล้ว

☑️ พ่นใส่ลำคอ แก้ไอ เสมหะ เเละใช้กลั้วคอวัน ละ 2 - 3 ครั้ง CDS 10 ml /น้ำ 100 มล. เเล้วบ้วนทิ้ง

☑️ แผลเปิด ผสม CDS 3 ml /น้ำ 100 มล. พ่นใส่แผลฆ่าเชื้อ ก่อนไปถึงมือหมอ

☑️ คนหายใจไม่ออก หายใจติดขัด หมดสติผสม CDS 20 ml / นํ้า 500 มล.กรอกปากกิน เพื่อกระตุ้นและป้องกันอาการรุนแรงก่อนไปถึงมือหมอ

☑️ กรณีเด็กจะดื่มตามน้ำหนักของเค้า CDS 1 ml / น้ำ 500 มล./ น้ำหนัก 12 กก. อาจปรับเปลี่ยนเพิ่มได้ถ้าน้ำหนักเกิน เช่น เด็กหนัก 20 กก. ก็ใช้ 2 ml และเด็กอาจดื่มน้ำได้ไม่มาก ให้ดื่มครั้งละ 50 มล. ให้ได้สักวันละ 500 มล. ก็เพียงพอต่อการรักษาโรคให้เค้าได้เเล้ว..

☑️ หยอดหู CDS 1 ml / นํ้า 10 มล. หยอด ทุก 2 - 4 ชั่วโมง เเช่ตู้เย็นใช้เเค่ 2 วันเเล้วทิ้ง รักษาภายในหู เช่น แก้หูดับ หูตึง ปวดหู มีเสียงดัง มีลมออกหู นํ้าในหูไม่เท่ากัน เเละโรคหูต่างๆ

☑️ ใช่สำลีชุบ CDS เพียวๆ อุดแผลถอนฟันห้ามเลือดได้เป็นอย่างดี

☑️ ใช้ดีท็อกสวนล้างลำใส้ใหญ่ ใช้อุปกรณ์สวนทวาร ผสม CDS 10 ml/นํ้า 500 - 1,000 มล. ค้างไว้ 3 - 5 นาที เพื่อขับของเสียในลําไส้ออกมา

☑️ สุภาพสตรี ใช้รักษามะเร็งรังไข่ ปัญหาเชื้อในช่องคลอด เเละตกขาว หรือ เนื้องอกต่างๆ

ผสม CDS 10 ml/นํ้า 500 มล. ใช้อุปกรณ์สวนล้างฉีดเข้าภายใน ค้างน้าไว้ 5 - 10 นาที วันละ 1 - 2 ครั้ง

☑️ ล้างผัก ผลไม้

ใช้อัตราส่วน 5 ml/นํ้า 500 ml เเช่ทิ้งประมาณ 5 - 10 นาที

☑️ รดนํ้าต้นไม้ 1 ml/นํ้า 100 มล. เช้า - เย็น จะทําให้พืชเเตกรากดี ใบเขียว โตไว

☑️ CDS ฉีดพ่นเพียวตามตู้เสื้อผ้า โซฟา พื้นพรม เบาะรถ ภายในรถยนต์ ฆ่าเชื้อเเบคทีเรียที่ทําให้เกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ เเละลดกลิ่นอับต่างๆได้เป็นอย่างดี